ทุนต่อธุรกิจ เคล็ดทำเงินหลักของคนรวย

สำหรับคนที่ทำงานประจำเป็นพนักงานกินเงินเดือน เรารู้กันดีว่า เวลาที่เงินโบนัสออกนั้น เราจะเอาไปทำอะไรกัน บางคอนเอาไปให้ผู้มีอุปการะ บางคนเอาไปเลี้ยงสังสรรค์กับพวกพ้อง บางคนส่งให้ครอบครัวไว้ใช้จ่ายและเก็บออมฝากเข้าธนาคาร แต่รู้ไหมว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่นั้น เวลาได้เงินเค้าเอาไปทำอะไรกัน ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจที่ไม่มีเงินเดือน ทำกิจการของตัวเอง เวลาได้กำไรกลับมาก็เทียบเหมือนกับการได้โบนัสของพนักงานเงินเดือนนั่นแหละ เค้าเหล่านั้นจะไม่ได้เอาไปใช้ฟุ่มเฟือย อาจจะมีบางส่วนที่แบ่งเก็บออมไว้เผื่อไว้ยามฉุกเฉิน และมีการแบ่งอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการลงทุนต่อเพื่อนำไปต่อยอดในธุรกิจของตัวเองให้รวยมากยิ่งขึ้น

เอากำไรต่อยอดธุรกิจ มันดีจริงหรือ

มันเป็นการวัดดวงที่บางทีคนทำงานรับเงินเดือน อาจจะมองไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่จะเอาเงินเหล่านั้นไปต่อยอดในธุรกิจ เพราะเมื่อวันหนึ่งธุรกิจเจ๊ง เงินเหล่านั้นก็สูญเปล่า แทนที่จะได้นำไปใช้ชีวิตสนุกกับพวกพ้อง หรือนำไปให้ครอบครัว ความคิดเหล่านี้เป็นความจริงในบางส่วนเพราะหากธุรกิจที่เราลงทุนไปนั้น อยู่ๆเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ เจ๊งขึ้นมา เราก็หมดตัว สิ่งที่เราลงทุนไปในธุรกิจนั้นเพิ่มก็เหลือศูนย์ นอกจากจะเจ๊งยังไม่ได้ไปเที่ยวในช่วงที่มันได้กำไรซะอีก

แต่รู้มั้ยว่า ในทางกลับกัน หากว่าธุรกิจนั้นไปได้ดีและมีการเพิ่มทุนขยายฐานต่อเนื่อง มันจะเพิ่มแรงเหวี่ยงให้กับธุรกิจทำให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เรารู้กันดีว่าคนรวยกับคนจนนั้น สัดส่วนประชากรบนโลกมีจำนวนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง 5% ของคน 100 คนจะอยู่ในกลุ่มของคนรวย และคนเหล่านั้นกว่าจะมาถึงจุดนั้นได้ ต้องมีการใช้กำไรลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องอยู่หลายคน เพื่อพยายามขยายฐานแซงคู่แข่งให้ได้ หากเอากำไรมานั่งกิน แล้วรอกำไรปีหน้านั่งกินอีก โดยที่ขนาดธุรกิจยังเท่าเดิมนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง บางคนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ไม่ลองหาช่องทางสำรอง คาดหวังแต่สิ่งที่มีว่ามันจะสามารถทำงานให้เราไปได้ตลอด ข้อนี้ไม่เป็นความจริง

ตัวอย่างหลายกิจการล้มลงเมื่อเทคโนโลยีเข้าแทนที่ ธุรกิจถ่ายเอกสารบ้านเรา นับวันนับเจ๊งลงเรื่อยๆ เพราะข้อมูลการแจกไฟล์ออนไลน์มีความรวดเร็วและต้นทุนต่ำกว่ามาก กล้องที่เคยใช้ระบบล้างฟิลม์ม้วน สมัยนี้ก็เป็นดิจิตอลกันหมดแล้ว หากไม่มีการปรับตัว ธุรกิจต้องเจ๊งเป็นธรรมดา ในเมื่อเราต้องการคิดแบบนักธุรกิจ เราอยากรู้แนวทางของคนรวย นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้เราสามารถต่อยอดและก้าวไปสู่กลุ่มคน 5% เหล่านั้นได้